ครีมกันแดดมีบทบาทต่อชีวิตมนุษย์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะแสงแดดนั้นเป็นตัวการทำให้ผิว หมองคล้ำ กระ ฝ้าจุดด่างดำบนใบหน้า และทำให้ผิวหน้าชราก่อนวัยอันควร ซ้ำยังเป็นต้นเหตุของมะเร็งผิวหนัง ที่ฆ่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก แต่ครีมกันแดดมีมากมายในท้องตลาด และมีคำศัพท์มากมายเกี่ยวกับครีมกันแดด ไม่ว่าจะเป็น UVA UVB UVC PA SPF และส่วนผสมสารกันแดดที่ได้ผ่านมาตรฐานองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) กระทรวงสาธารณสุข (อย.)
ส่วนผสมในครีมกันแดดที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในสหรัฐอเมริกาโดยองค์การอาหารและยา ( FDA) 18ชนิด และในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย) ปี2532
เราคงเคยได้ยินคำว่า SPF ในผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดไม่มากก็น้อย SPF คือ คำย่อจาก SUN PROTECTION FACTOR เป็นค่าที่ใช้บอกว่าเราจะสามารถยืนกลางแดดโดยทาสารกันแดดนั้นๆ โดยผิวหนังไม่ถูกเผาไหม้ ได้นานเท่าใด เปรียบเทียบกับผิวที่ไม่ได้ใช้สารกันแดด โดยค่าที่วัด จะเป็นการวัดเฉพาะการปกป้อง UVB เท่านั้น
ตัวอย่างเช่น ค่าการป้องกันแสงแดด ถ้าเคยตากแดดแล้วผิวไหม้แดง ในเวลา 15 นาที หากทายากันแดดที่มี SPF= 6 ผิวจะไหม้ในเวลาเป็น 6 เท่าคือ 90 นาที (6x15=90) ถ้าค่า SPF= 8 ผิวจะไหม้ในเวลา 2 ชั่วโมง (8x15=120)
ซึ่งเมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งนานๆ ควรจะเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SFP30 ขึ้นไป ซึ่งจะทำให้ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ดี และนานยิ่งขึ้น
ค่า PA คือ การวัดการเปลี่ยนแปลงของผิว skin pigmentation หรือวัดความดำของผิวที่เปลี่ยนแปลงไป หลังจากสัมผัสแสง กับ UVA โดยตัวบ่งชี้ค่าของการวัดการปกป้องของผลิตภัณฑ์แต่ละตัว จะเป็นช่วงตั้งแต่ 1 - 16 โดยค่า 1 หมายถึงมีการปกป้องน้อยที่สุด ค่า PA ที่บอกถึงระดับในการป้องกันรังสี UVA
ค่าPA เป็นค่าการวัดการปกป้องรังสี UVA จะสัมพันธ์กับเครื่องหมาย + โดยสมาคมอุตสาหรรมเครื่องสำอางประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ริเริ่มนำมาใช้ ในปี 2006 สูงสุด 3ระดับ คือPA+++ ปัจจุบันปี 2013 ได้ออกมาตรฐานมาใหม่ ISO 24442:2011ที่ใช้กับร่างกายเป็น 4ระดับ PA++++ ค่า นั้นหมายความผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดญี่ปุ่นจะต้องระบุค่าPA ไว้ในฉลากสินค้า
ผลจากการโดนแสงแดดเผา Sunburn รอยแดง และเป็นแผลพุพ่อง
ระดับค่า PA (มาตรฐานมาใหม่ ISO 24442:2011)
PA+ =1 - 3 หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVAเริ่มต้น
PA++ =4-7 หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA กลาง
PA+++ =8-15 หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูง
PA++++ =16+ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูงสุด
ซึ่งเมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งนานๆ ควรจะเลือกครีมกันแดดที่มีค่า PA++ ขึ้นไป ซึ่งจะทำให้ปกป้องผิวจากรังสี UVA ได้ดี
ภาพแสดง รังสี UVA UVB UVC ผ่านชั้น OZONEในชั้นบรรยายกาศโลก แต่ปัจจุบัน UVCได้ผ่านมาเป็นบางส่วนจากชั้นOZONEที่ทุกทำลายจากมนุษย์
ภาพซ้ายถ่ายด้วยกล้องทั่วไปจะไม่เห็นการปกป้องของครีมกันแดด ภาพขวาเป็นกล้องอัลตราไวโอเลต จะเห็นการปกป้องของครีมกันแดด และเห็นจุดด่างดำบนใบหน้า
PABA หรือ Para-Aminobenzoic Acid เป็นสารกันแดดที่สามารถป้องกัน UVB ได้ แต่มีหลายคนที่แพ้สารตัวนี้ และ PABA ยังทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่เปรอะเปื้อนได้ด้วย หากคุณมีผิวที่แพ้ง่าย หรือเป็น eczema (ผิวหนังจะมีผื่น บวมแดง มีตุ่มน้ำใส หรือน้ำเหลือ) ให้หลีกเลี่ยงกันแดดที่ผสมสารนี้ แล้วหา ที่เป็นแบบ PABA free
ป้ายผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดจะเขียนบอก PABA FREE อย่างเด่นชัด
Waterproof & Water-resistant องค์การอาหารและยาประเทศอเมริกา(FDA) ได้กำหนดไว้ว่า
เพียงเท่านี้คุณก็เข้าใจศัพท์เฉพาะในครีมกันแดด บทความต่อไปก็จะเป็นการเลือกให้เหมาะสมผิวและวัย และวิธีทาครีมกันแดดอย่างถูกต้อง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณที่มา
http://www.skincancer.org/prevention/sun-protection/sunscreen/choosing
http://en.wikipedia.org/wiki/Sunscreen
http://www.fda.gov/
http://www.oocities.org/
http://www.beyondsoho.com
หน้าที่เข้าชม | 7,303,563 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 4,296,250 ครั้ง |
เปิดร้าน | 25 เม.ย. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |