VITAMIN DHC วิตามินดีเอชซีรักษาสิว

กลุ่มอาหารเสริม วิตามินดีเอชซีรักษาสิว VITAMIN DHC  รักษาสิว

DHC ZINC ซิงค์หรือสังกะสี

ซิงค์หรือสังกะสี ช่วยส่งเสริมการทำงานของทุกๆระบบในร่างกาย เป็นที่ยอมรับมากที่สุดในเรื่องของการป้องกันและรักษาสิว โดยช่วยรักษาสมดุลฮอร์โมนต่างๆในร่างกาย โดยเฉพาะเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว ควบคุมการผลิตน้ำมันบริเวณต่อมน้ำมันใต้ผิวหนังให้เป็นปกติ ต่อต้านและทำลายแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวลดและบรรเทาอาการอักเสบของสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพพบซิงค์ได้ในธรรมชาติ ได้แก่ อาหารทะเล หอยนางรม เนื้อสัตว์ เนื้อวัวไม่ติดมันแบบย่าง เนื้อลูกแกะ ตับลูกวัว ไข่ นมผงปราศจากไขมัน มัสตาร์ดแบบแห้ง จมูกข้าวสาลี แป้งงา เนยงา ถั่วลิสง เมล็ดฝักทอง เมล็ดแตงโม เม็ดก๋วยจี๊ ผงโกโก้ ช๊อคโกแลต บริเวอร์ยีสต์ เป็นต้น

DHC EPA DHC DHA วิตามิน  OMAGA 3

กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์นี้ จะช่วยทำให้เซลล์แข็งแรง EPA จะช่วยลดการสร้างสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ จึงช่วยต่อต้านอาการอักเสบได้ดี ส่งผลให้อาการอักเสบของสิวทุเลาลง อีกทั้งยังบรรเทาอาการแดงและระคายเคือง ทำให้ผิวหนังกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น ผิวจึงไม่แห้งกร้าน ทำให้สิวที่กำลังบวม อักเสบหายเร็วขึ้นด้วยแหล่งน้ำมันปลาในธรรมชาติที่ดีที่สุด คือ ปลาทะเล, หอยนางรมแปซิฟิก และปลาหมึก ปลาทะเล เช่น แซลมอน ทูน่า ซาบะ ซาร์ดีน เฮอร์ริ่ง แองโชวี่ ไวท์ฟิช บลูฟิช ชอคฟิช ปลาเทร้า แมคเคอเรล เป็นต้น ปลาทะเลที่มีน้ำมันปลา มาก คือ ปลาทู ปลาสำลี ปลารัง ปลากระพง เป็นต้น

DHC VITAMIN C วิตามินซี

วิตามินซี ช่วยรักษาริ้วรอย รอยแดง จุดด่างดำจากสิว เนื่องจากวิตามินซีนั้นเป็นสารตั้งต้นสำหรับผิวในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน ช่วยซ่อมแซมและเติมเต็มเซลล์ผิวที่ถูกทำลายให้ดีดังเดิมทำให้ผิวมีการเร่งสร้างคอลลาเจนได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น ซึ่งเหมาะกับคนที่เป็นรอยสิว หลุมสิวอย่างยิ่งวิตามินซีได้ในอาหาร ได้แก่ ผลไม้รสเปรี้ยว มะนาว ส้ม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว แคนตาลูป มันฝรั่ง มะเขือเทศ ดอกกะหล่ำ เป็นต้น

DHC VITAMIN E วิตามินอี

วิตามินอีเป็นวิตามินที่มีสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานประสานกันได้ดี มีส่วนทำให้ระบบการทำงานของผิวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นวิตามินที่นิยมใช้ช่วยรักษารอยแดง รอยสิว หลุมสิว ช่วยรักษาสิวให้ริ้วรอย จุดด่างดำ รอยสิวต่างๆจางลงได้วิตามินอีในอาหาร ได้แก่ ไข่ ขนมปังโฮลวีต ถั่วเหลือง น้ำมันพืช น้ำมันเมล็ดฝ้าย น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันข้าวโพดถั่ว เมล็ดทานตะวัน เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ วอลนัท พีแคน ถั่วลิสง  จมูกข้าวสาลี จะมีแกมมาโทโคฟีรอลมากเป็นพิเศษ) กะหล่ำปลี กะหล่ำดาว ผักใบเขียว ผักขม อะโวคาโด(เฉพาะเนื้อ) ปวยเล้ง เป็นต้น

DHC B MIX วิตามินบีรวม

วิตามินบี 5(Vitamin B5)

มีส่วนช่วยรักษาสิวได้ โดยจะเข้าไปมีส่วนในเรื่องการลดการผลิตน้ำมันบนใบหน้า ช่วยให้ร่างกายสร้าง Coenzyme-A ซึ่งใช้ในการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ซึ่งก็เข้าไปช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินของร่างกายได้ดีขึ้น เมื่อความมันที่ผิวหน้าเราน้อยลง การอุดตันและเกิดสิวก็น้อยลง แถมยังลดริ้วรอยเหี่ยวย่น รอยตีนกา ฝ้า กระ และจุดด่างดำ เป็นต้น อาหารที่มีวิตามินบี 3  ได้แก่ ข้าวโพด ไข่แดง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ และถั่วเหลือง 

วิตามินบี 3(Vitamin B3)

วิตามินบี 3 มีส่วนสำคัญในการเผาผลาญพลังงาน และการสังเคราะห์ไขมัน ช่วยสร้างความชุ่มชื้นกับผิว ช่วยให้ผิวสามารถกักเก็บน้ำได้ดีขึ้น รวมไปถึงความสามารถในการกำจัดแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุการเกิดสิว ซึ่งพบว่า Niacinamide 4% มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวเทียบเท่ากับการรักษาสิวด้วย Clindamycin 1% และวิตามินบี 3 ยังช่วยป้องกันและเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ดีอีกด้วย  อาหารที่มีวิตามินบี 3 เยอะหน่อย เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ เนื้อเป็ด ผักชะอม ใบชะพลู เห็ด และ อะโวคาโด